ฟื้นฟูสมดุลระบบทางเดินอาหาร
โรคทั้งหลายเริ่มต้นที่ลำไส้ หรือ "All disease begins in the gut" คือ ความจริงที่สะท้อนเรื่องสุขภาพของสังคมในปัจจุบัน เพราะลำไส้เล็กของเราเสมือนเป็นปราการคัดกรองสารเข้าสู่ร่างกาย หลังจากผ่านการย่อยจนได้โมเลกุลสารอาหารที่เล็กที่สุด สังคมที่เร่งรีบประกอบกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารเดิม ๆ ซ้ำ ๆ หรือการรับสารพิษจากยาฆ่าแมลงตกค้างสะสม ล้วนส่งผลต่อความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ จนทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการของ ภาวะลำไส้รั่ว
ภาวะลำไส้รั่ว (Leaky Gut Syndrome)
คือสภาวะที่ เซลล์เยื่อบุผนังลำไส้ที่เรียงตัวชิดติดกันเป็นระเบียบ (Tight Junctions) เกิดการอักเสบ จนเกิดช่องว่างระหว่างเซลล์ ทำให้หมดความสามารถในการควบคุมการผ่านเข้าออกของสารอาหารและหมดความสามารถในการป้องกันสารพิษ เชื้อก่อโรค หรือสิ่งแปลกปลอมผ่านเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อ บรรดาสารพิษ สารก่อภูมิแพ้ และเชื้อก่อโรคเล็ดลอดผ่านช่องว่างเหล่านี้เข้าสู่กระแสเลือดได้โดยไม่ผ่านการกรอง การร่างกายจึงต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ จนก่อให้เกิดปัญหาการอักเสบเรื้อรังซ้ำซากและกลายเป็นอาการเจ็บป่วยตามมา เราเรียกสภาวะนี้ว่า ภาวะลำไส้รั่ว หรือ "Leaky Gut Syndrome"
อาการเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
- ท้องอืดและมีแก๊ส : การหมักของอาหารในลำไส้โดยแบคทีเรียที่เติบโตมากเกินไปสามารถทำให้เกิดอาการท้องอืดและมีแก๊สได้
- อาการปวดท้อง: การอักเสบจากลำไส้รั่วอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง
- ท้องเสียและท้องผูก: การเปลี่ยนแปลงระหว่างท้องเสียและท้องผูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเมือกในอุจจาระ
- อาหารไม่ย่อย: การสูญเสียเยื่อบุลำไส้สามารถทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย
อาการทางระบบอื่นๆ
- ความเหนื่อยล้า
- อาการปวดหัวและสมองมึนงง
- อาการปวดข้อ รวมทั้งโรคข้ออักเสบ
- ปัญหาผิวหนัง: สิว กลาก และโรคผิวหนังอื่นๆ
- ความไวต่ออาหาร: กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ต่ออาหารบางชนิด
- ความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
- การขาดสารอาหารเนื่องจากการดูดซึมสารอาหารที่บกพร่อง
หากคุณมีอาการเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพเพื่อประเมินและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง
ความหวังใหม่ในการป้องกันโรคร้ายในอนาคต
ในร่างกายของมนุษย์ เป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ต่างๆ กว่าล้านล้านเซลล์ จุลินทรีย์ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในร่างกาย รวมเรียกว่า "ไมโครไบโอต้า" (Microbiota) ซึ่งมีชนิดและจำนวนแตกต่างกันในแต่ละบุคคลตามสิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิต จุลินทรีย์เหล่านี้ได้แก่ ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และพยาธิ รวมถึงจุลชีพอื่นๆ โดยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะอาศัยอยู่ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย เช่น ผิวหนัง ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ช่องคลอด โดยบางชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกาย และบางชนิดก่อให้เกิดโรค ซึ่งจำเป็นต้องมีการวิเคราะห์อย่างละเอียดด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้านพันธุกรรมขั้นสูง
"ไมโครไบโอม" คือยีนหรือพันธุกรรมของ "ไมโครไบโอต้า" หรือ จุลินทรีย์ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในร่างกาย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป DNA ของจุลินทรีย์เหล่านี้รวมถึงซากเชื้ออาจมีการแทรกซ้อนเข้าไปใน DNA หรือจีโนมของมนุษย์ ทำให้ DNA ของมนุษย์เกิดการกลายพันธุ์ หรือ somatic mutation ซึ่งจากการศึกษาพบว่า การกลายพันธุ์นี้มีความสัมพันธ์กับโรคที่มีความร้ายแรงบางชนิด รวมถึงมะเร็งบางชนิดอีกด้วย
โรคที่มีความสัมพันธ์กับ DNA ที่กลายพันธุ์จากการแทรกซ้อนของ DNA จุลินทรีย์ ได้แก่
- มะเร็ง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด
- โรคทางสมอง : อัลไซเมอร์, ออทิสติก, โรคลมชัก, โรคทางจิตประสาท
- โรคทางเดินอาหาร : ลำไส้แปรปรวน, ลำไส้อักเสบ, ลำไส้รั่ว, โรคตับแข็ง
- โรคระบบภูมิคุ้มกัน : Multiple sclerosis, SLE, รูมาตอยด์, สะเก็ดเงิน, Eczema
- โรคเกี่ยวกับเมตาบอลิซึ่ม : เบาหวาน, โรคอ้วน, ไขมันพอกตับ
- โรคทางระบบสืบพันธุ์ : ช่องคลอดอักเสบ, การแท้งบุตร, เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ไมโครไบโอมที่ดีจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี และยังช่วยป้องกันการเกิดโรค ขณะเดียวกันไมโครไบโอมของจุลินทรีย์ที่เป็นเชื้อก่อโรคก็อาจทำให้เกิดโรคร้ายได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต
259/22 ซอยปรีดีพนมยงค์ 15 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110
เวลาทำการ
วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 17.00 น.
วันเสาร์ เวลา 8.00 - 12.00 น.
MakeWebEasy