สุขภาพเพศหญิง

เนื่องจากเพศหญิง มีชนิดของฮอร์โมนที่หลากหลายมากกว่าเพศชาย จึงมีโอกาสเกิดความผิดปกติของสมดุลฮอร์โมนได้ไวกว่า ง่ายกว่า และอาการรุนแรงกว่า ในเพศชายอาจเริ่มมีปัญหาของฮอร์โมนเมื่ออายุ 40-45 ปี แต่พบว่า ผู้หญิงเริ่มมีปัญหานี้ตั้งแต่อายุ 30-35 ปี และจะชัดเจนเมื่ออายุ 50-55 ปี หรือที่เรียกว่า วัยหมดประจำเดือน

ฮอร์โมนเพศหญิงที่สำคัญ มีดังนี้

• Estrogen : ทำหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์, ลักษณะของเพศหญิง, การมีประจำเดือน, การตั้งครรภ์ และควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงอารมณ์

• Progesterone : ทำหน้าที่กระตุ้นการหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกให้พร้อมรับการฝังตัวของตัวอ่อน, ดูแลสภาพความพร้อมระหว่างการตั้งครรภ์, รักษาสมดุลฮอร์โมนอื่นๆ

• FSH : ทำหน้าที่กระตุ้นให้ไข่มีการเจริญเติบโตและพร้อมต่อการสืบพันธุ์ และมีผลต่อการเจริญเติบโตทางเพศในช่วงวัยเจริญพันธุ์

• LH : ทำหน้าที่กระตุ้นให้ไข่ที่เจริญเต็มที่แล้วตกจากรังไข่เพื่อรอผสมกับอสุจิ

นอกจากฮอร์โมนเพศ 4 ชนิดที่กล่าวมา ยังมีฮอร์โมนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย การเกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้มีอาการต่างๆ ได้แก่

• ประจำเดือนผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ หรือ ขาดหายไป

• การมีบุตรยาก หรือภาวะแท้งบุตร

• การเจริญพันธุ์ที่ผิดปกติ

• ลักษณะทางเพศที่ผิดปกติ

• โรคทางนรีเวชบางอย่าง เช่น ซีสต์หรือถุงน้ำรังไข่, เนื้องอกมดลูกหรือเต้านม

• สภาวะทางอารมณ์ หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน นอนหลับยาก

• สภาวะทางร่างกายที่เสื่อมถอย มวลกล้ามเนื้อลดลง กระดูกบาง รอยเหี่ยวย่นที่ผิวหนัง ผมร่วง ช่องคลอดแห้งและฝ่อตัว

• อาการอื่นๆ เช่น ตัวบวม, เจ็บบริเวณเต้านม, น้ำหนักตัวขึ้น

จากอาการของฮอร์โมนไม่สมดุลที่กล่าวมา พบว่า มีผลกระทบกับร่างกายทั้งภายในและภายนอก รวมถึงสภาวะอารมณ์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรอจนหมดประจำเดือนก่อน แล้วค่อยรักษา การรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณผู้หญิงคงความสาวได้อย่างยาวนาน ลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพที่ตามมาในอนาคต และยังทำให้ชีวิตคู่ของคุณหวานชื่นขึ้นอีกด้วย

02-227-0600

เวลาทำการ

วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 17.00 น.

วันเสาร์ เวลา 8.00 - 12.00 น.