เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้น (Immune system) ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจาก ผู้บุกรุก เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และปรสิต รวมถึงเซลล์ที่ผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง ที่อาจทำให้คุณป่วยได้ โดยระบบภูมิคุ้มกันจะจดจำ "ผู้บุกรุก" และสร้างการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับการบุกรุกเหล่านั้น หากระบบภูมิคุ้มกันของคุณยังทำงานได้อย่างราบรื่น คุณจะไม่สังเกตเห็นว่ามีระบบภูมิคุ้มกันอยู่ แต่ถ้าระบบภูมิคุ้มกันของคุณหยุดทำงานอย่างเหมาะสมเนื่องจากอ่อนแอหรือไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่ร้ายแรงได้ คุณก็จะป่วย อย่างไรก็ตาม ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานน้อยเกินไปหรือทำงานมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้
อาการผิดปกติของโรคภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติมีอะไรบ้าง?
- การติดเชื้อซ้ำๆ หรือรุนแรงกว่าปกติ
- การติดเชื้อด้วยเชื้อโรคที่ผิดปกติ
- รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
- ไข้ขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เหงื่อออกตอนกลางคืน
- อาการคันผิวหนัง
- อาการอักเสบ ผื่น หรือมีรอยแดงบริเวณใดบริเวณหนึ่งบนร่างกาย
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- ปวดตามข้อ ขยับข้อลำบาก
- ต่อมน้ำเหลืองบวมที่คอ รักแร้ หรือขาหนีบ
- ผมร่วง
- การเจริญเติบโตไม่ดี (ในเด็ก)
โรคประจำตัวและยาบางอย่าง รวมถึงปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์ต่างๆ สามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอลงและขัดขวางการป้องกันของคุณได้อย่างที่ควรจะเป็น หากคุณรู้สึกว่าตัวเองป่วยตลอดเวลาหรือมีอาการที่ไม่หายสักที ควรนัดปรึกษาแพทย์ผู้มีความชำนาญเพื่อตรวจสอบดูว่าคุณมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอหรือไม่และอะไรเป็นสาเหตุของปัญหา
ผลของ 'ความชรา' ต่อระบบภูมิคุ้มกัน
เมื่ออายุมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันจะมีประสิทธิภาพลดลงในลักษณะต่างๆ ดังต่อไปนี้ :
- เม็ดเลือดขาวมีจำนวนน้อยลง และตอบสนองต่อแอนติเจนใหม่น้อยลง ดังนั้น เมื่อผู้สูงอายุพบกับแอนติเจนใหม่ ร่างกายจะป้องกันตัวเองได้น้อยลง
- T cell ซึ่งทำหน้าที่จดจำแอนติเจนที่เคยพบมาก่อน ตอบสนองต่อแอนติเจนได้น้อยลง ทำให้ปกป้องตัวเองไม่ได้แม้เคยเจอแอนติเจนนี้มาก่อน
- แมคโครฟาจ (ซึ่งทำหน้าที่กินแบคทีเรีย และเซลล์แปลกปลอมอื่นๆ) มีความสามารถในการทำลายแบคทีเรีย เซลล์มะเร็ง และแอนติเจนอื่นๆ ได้ช้าลง การชะลอตัวนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคมะเร็งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
- ระบบภูมิคุ้มกันมีความสามารถในการแยกแยะตัวเองจากสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองน้อยลง ส่งผลให้เกิดโรคภูมิต้านทานตนเองบ่อยขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจอธิบายได้บางส่วนว่าเหตุใด โรคปอดบวม ไข้หวัดใหญ่ โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด จึงพบได้บ่อยในผู้สูงอายุและส่งผลให้เสียชีวิตบ่อยขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงของการทำงานของภูมิคุ้มกันเหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้สูงอายุมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อและเกิดมะเร็งบางชนิดมากขึ้น
: เป็นการตรวจประสิทธิภาพการทำงานของ NK cell (Natural Killer cell) ของเม็ดเลือดขาวว่าอยู่ในภาวะที่ตื่นตัวพร้อมทำหน้าที่ในการต่อสู้กับผู้บุกรุกหรือไม่ ช่วยในการประเมินระดับความสามารถในการคุ้มกันเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง
: เป็นการตรวจการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันว่าทำงานปกติหรือไม่ สามารถตรวจได้ทั้งภาวะภูมิคุ้มกันทำงานน้อยเกินไปหรือทำงานมากเกินไป ใช้ในการวินิจฉัยภาวะภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง หรือ Autoimmune disease
: เป็นการตรวจภาวะภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติที่เกิดขึ้นภายหลังการติดเชื้อโควิดซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อย เพื่อใช้ในการวางแผนการรักษาและฟื้นฟูร่างกายให้กลับมามีสุขภาพดีดังเดิม
: เป็นการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงแบบใหม่ที่ให้มากกว่าการตรวจภูมิแพ้แฝงทั่วไป โดยตรวจทั้งแอนติบอดี้ IgG และสารเชิงซ้อน Immune Complex IC-C3d ไปพร้อมๆกัน จึงทำให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากกว่าการตรวจภูมิแพ้อาหารแอบแฝงแบบทั่วไปที่ตรวจ IgG เพียงอย่างเดียว
เรามีการรักษาที่หลากหลายซึ่งสามารถนำมาบูรณาการร่วมกันในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การดริปวิตามินและเกลือแร่เกรดพรีเมี่ยมสูตรพิเศษ เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส, Peptide therapy เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ปรับสมดุลระบบในร่างกายและช่วยฟื้นฟูร่างกาย, Ozone therapy เติมออกซิเจนสู่กระแสเลือดเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เสริมการทำงานของเม็ดเลือดแดงและขาว, ชีวพลศาสตร์บำบัด กระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายทำงานมากขึ้น ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น, อาหารเสริมสูตรเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกาย, อาหารเสริมแบบเฉพาะบุคคลโดยอิงตามผลการตรวจและการวิเคราะห์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
259/22 ซอยปรีดีพนมยงค์ 15 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110
เวลาทำการ
วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 17.00 น.
วันเสาร์ เวลา 8.00 - 12.00 น.
MakeWebEasy